{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

PTECH โชว์ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 68 สะท้อนสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง รายได้จากการขายและให้บริการ 64.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ EBITDA พลิกกลับมาเป็นบวกที่ 8.19 ล้านบาท เดินหน้าสู่การเติบโตครั้งใหม่ผ่านธุรกิจผลิตและประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (EMS) ควบคู่การดำเนินงานภายใต้ ESG ตั้งเป้าสู่องค์กรคาร์บอนต่ำในอนาคต
นายวิเลิศ อรวรรณวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลัส เทค อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTECH เปิดเผยผลประกอบการงบการเงินเฉพาะกิจการไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 64.4 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 49.4 ล้านบาท จำนวน 15.0 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.5% มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 8.19 ล้านบาท หลังจากปรับปรุงรายการที่บันทึกครั้งเดียวแล้ว เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา เป็นผลจากการที่ผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาปรับโครงสร้างบริษัท ควบคุมต้นทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริหารจัดการหนี้และเจรจาเจ้าหนี้สำเร็จ โดยได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ รวมทั้งตั้งพักดอกเบี้ยที่ค้างชำระ โดยอัตราส่วนสภาพคล่องปรับตัวจาก 0.2 เท่า เป็น 1.4 เท่า และอัตราหนี้สินต่อทุนลดลงจาก 1.9 เท่า เหลือเพียง 0.8 เท่า สะท้อนถึงโครงสร้างการเงินที่มีเสถียรภาพและพร้อมรองรับการเติบโตในระยะต่อไป และมีผลขาดทุนสุทธิสำหรับงวดสามเดือนจำนวน 774.3 ล้านบาท
ด้านผลประกอบการงบการเงินเฉพาะกิจการสำหรับงวด 9 เดือนปี 2568 บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 138.6 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีผลขาดทุนสุทธิสำหรับงวดจำนวน 1,102.0 ล้านบาท เป็นผลจากที่ธุรกิจบัตรพลาสติกและบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล ได้รับสัญญาการจ้างงานในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อผลการดำเนินการที่ดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ปี 2568 และจากการขายหุ้นสามัญของบริษัท เวนดิ้ง พลัส จำกัด หรือ VDP ที่ดำเนินธุรกิจตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา จึงทำให้บริษัทรับรู้รายได้จากเพียงธุรกิจเดียว
นอกจากนี้ บริษัทได้ปิดจบรายการขาดทุนพิเศษ (One-time Loss) ที่เกิดจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ ทั้งรายการด้อยค่าสินทรัพย์ – เครื่องจักรและอุปกรณ์เครื่องจักรเครื่องกดอัตโนมัติ ประมาณการณ์ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย รวมถึงขาดทุนสำหรับงวดจากการดำเนินงานที่ยกเลิก ซึ่งทั้งหมดได้ถูกบันทึกครบถ้วนแล้วภายในไตรมาส 3 ทำให้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ผลประกอบการจะสะท้อนเฉพาะผลการดำเนินงานจริงของธุรกิจ (Core Operation) โดยไม่มีรายการพิเศษเข้ามากระทบต่อผลการดำเนินงานอีกต่อไป ซึ่งจะช่วยให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนสามารถประเมินศักยภาพการดำเนินงานของบริษัทได้อย่างโปร่งใส และสะท้อนผลประกอบการที่แท้จริงมากยิ่งขึ้น
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4 บริษัทคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากความต้องการใช้บัตรพลาสติกในกลุ่มสถาบันการเงินและภาครัฐที่เพิ่มขึ้น ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรประจำตัว และบัตรสมาร์ทการ์ด รวมถึงโครงการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ของภาครัฐ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนรายได้ของบริษัทในช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้ PTECH ยังรุกขยายเข้าสู่ธุรกิจใหม่ Electronics Manufacturing Services (EMS) ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การเติบโตระยะยาว (New S-Curve) โดยให้บริการผลิตและประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และสมาร์ทดีไวซ์สำหรับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลสูง เริ่มมีคำสั่งซื้อทยอยเข้ามา และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS