สุนทรพจน์โควิด-19 ของลี เซียนลุง

สุนทรพจน์โควิด-19 ของลี เซียนลุง

โดยนายเกษมสันต์ วีระกุล

การกล่าวสุนทรพจน์ในวาระสำคัญๆนับเป็นบทบาทสำคัญอีกบทบาทหนึ่งของผู้นำโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะวิกฤติ เพราะสุนทรพจน์ที่ดีนั้นจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและทำให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับรัฐบาลได้เป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันสุนทรพจน์ที่ไม่ดีก็สามารถสร้างความสับสนวุ่นวายให้กับสังคมได้เป็นอย่างมากเช่นกัน

นายกฯลี เซียนลุงของสิงคโปร์ได้ออกมากล่าวสุนทรพจน์กับประชาชนเป็นครั้งครั้งที่สองในภาวะวิกฤติโควิด-19 เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นสุนทรพจน์ที่ได้รับคำชมเชยจากทั้งโลก วันนี้จึงขอแปลสุนทรพจน์ดังกล่าวมาให้ศึกษากัน

สวัสดีครับเพื่อนร่วมชาติชาวสิงคโปร์

5 สัปดาห์ที่แล้ว ผมได้ออกมาพูดกับท่านเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งหลังจากวันนั้นก็ได้มีเรื่องต่างๆเกิดขึ้นอีกมากมาย วันนี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่ผมจะได้มารายงานสถานการณ์และแบ่งปันข้อมูลกับทุกท่านว่าเรากำลังจะเผชิญกับอะไรบ้างในอนาคตข้องหน้า ซึ่งวันนี้ผมจะพูดกับท่านใน 3 เรื่องด้วยกันคือ ด้านการแพทย์ ด้านเศรษฐกิจและด้านจิตใจและความรู้สึก

ด้านการแพทย์ เรายังเจอผู้ติดเชื้อใหม่ๆอย่างต่อเนื่องซึ่งส่วนมากเป็นคนที่เดินทางไปต่างประเทศหรือได้รับเชื้อจากต่างประเทศ ซึ่งทุกครั้งที่พบเราสามารถแยกตัวผู้ติดเชื้อ สืบค้นต้นเหตุและกักบริเวณผู้ใกล้ชิดกับเขาเหล่านั้นได้ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่ได้พุ่งสูงมาก อย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว แต่เราก็ยังไม่สามารถกำจัดไวรัสนี้ได้อย่างเด็ดขาด

ในขณะเดียวกันที่รอบๆบ้านเรา จำนวนผู้ติดเชื้อกลับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ในจีนเริ่มทรงตัวแต่ผู้ติดเชื้อรายใหม่กลับเพิ่มสูงขึ้นในทั่วโลก ในยุโรป อเมริกาและตะวันออกกลาง ทั่วโลกจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นสองเท่าทุกๆ 5 ถึง 7 วัน ทำให้องค์การอนามัยโลกประกาศให้โควิด 19 เป็นโรคระบาดทั่วโลกแล้ว

การประกาศเช่นนั้นหมายความว่าอะไร? มันหมายความว่าองค์การอนามัยโลกประเมินแล้วว่ายังจะมีประเทศอีกจำนวนมากซึ่งจะต้องเผชิญกับสถานการณ์การระบาดอย่างหนักเช่นเดียวกับที่เกาหลีใต้และอิตาลีได้เคยเจอมาแล้ว และที่ไม่เหมือนไวรัสซาร์สก็คือการระบาดครั้งนี้จะยาวนานไปอีกนานพอสมควร อาจจะเป็นปีหรือยาวนานกว่านั้น

องค์การอนามัยโลกบอกว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้การระบาดเป็นไปอย่างรวดเร็วก็คือการที่ประเทศต่างๆไม่ได้แก้ไขปัญหาอย่างจริงจังมากพอ ซึ่งองค์การอนามัยโลกใช้คำว่า “ความเฉื่อยที่น่าตกใจ” แต่ในสิงคโปร์พวกเรารับมือสถานการณ์นี้ด้วยความจริงจังอย่างมากที่สุด จนทำให้องค์การอนามัยโลกชมเชยและยกให้สิงคโปร์เป็นตัวอย่างของประเทศที่ควรทำตาม

แต่เราเองก็ยังต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่รุนแรงเช่นประเทศอื่นๆ เราคาดว่าจะเจอกับผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศมากขึ้นอีก และอาจจะเจอผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่อีกระลอกหนึ่งจากต่างประเทศอีกหลายประเทศ เราได้ออกมาตรการควบคุมการเดินทาง เช่นการเดิน ทางมาจากประเทศจีน อิหร่าน เกาหลีใต้และอิตาลี แม้ว่าเราจะไม่สามารถปิดประเทศเราจากโลกได้ แต่เราจะเข้มงวดให้มากขึ้นกับเรื่องนี้ต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง

มีอะไรอีกมั้ยที่พวกเราควรทำเพิ่มขึ้นอีก? อย่างแรก เป็นเพราะว่าโควิด-19 ยังจะอยู่กับเราเป็นระยะเวลานานพอสมควร ดังนั้นจึงมีกิจกรรมพื้นฐานที่พวกเราจะต้องทำตัวให้คุ้นเคยกับมันให้ได้ เช่นการดูแลสุขอนามัยของตัวเอง การยอมรับมาตรฐานทางสังคมใหม่ การไม่ออกไปอยู่ในสถานที่ซึ่งมีคนจำนวนมาก และการอยู่ห่างจากคนอื่นๆ และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เราลดขนาดของกิจกรรมต่างๆลง โดยเฉพาะกิจกรรมของผู้สูงอายุ

ยังมีเรื่องอื่นๆที่เราสามารถทำเพิ่มเติมได้อีก เช่นการรวมตัวกันเพื่อกิจกรรมทางศาสนา ในเกาหลีใต้การระบาดอย่างหนักเกิดจากการรวมตัวกันในโบสถ์ของลัทธิชินชอนจิ ในสิงคโปร์เรามีการรวมตัวของสองกลุ่มใหญ่ในศาสนสถาน และยังมีชาวสิงคโปร์อีกจำนวนหนึ่งที่ได้ไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาในมาเลเซียซึ่งมีคนไปร่วมจำนวนมากก็โดนตรวจพบไวรัส แน่นอนว่าสาเหตุไม่ใช่เรื่องของศาสนาแต่เป็นเรื่องที่ไวรัสนี้สามารถแพร่ได้อย่างรวดเร็วในกิจกรรมที่มีผู้คนมารวมตัวกันอย่างหนาแน่นต่างหาก นั่นคือเหตุผลที่ทางซาอุดิอาระเบียประกาศยุติพิธีอุมเราะห์ชั่วคราว และสมเด็จพระสันตปาปาทำการไลฟ์สตรีมถ่ายทอดสดพิธีการเทศน์เพื่อมิให้ประชาชนมารวมตัวที่จตุรัสเซนส์ปีเตอร์ ผมหวังว่าคนสิงคโปร์จะเข้าใจว่าในช่วงนี้เรามีความจำเป็นจะต้องลดเวลาในการประกอบพิธีกรรมด้านศาสนาและลดการเข้าร่วมในพิธีดังกล่าว ขอความกรุณาท่านได้ปรึกษาหารือกับผู้นำศาสนาของท่านเพื่อปรับพิธีการทางศาสนาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้วย

เรื่องที่สอง เราต้องมีแผนสำหรับการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพราะถ้ามีผู้ติดเชื้อมากขึ้น เราจะไม่มีเตียงในโรงพยาบาลเพียงพอและจะไม่สามารถแยกผู้ติดเชื้อทุกรายเหมือนที่ทำได้ในปัจจุบัน ตอนนี้พวกเรารู้ว่าส่วนใหญ่ของผู้ติดเชื้อหรือราว 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อมีอาการเพียงเล็กน้อย กลุ่มที่มีความเสี่ยงมากก็คือผู้สูงอายุ และกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว เช่นความดันสูงหรือมีปัญหาเกี่ยวกับปอด ดังนั้นในกรณีที่มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก สิ่งที่สมเหตุสมผลที่เราจะทำก็คือให้เฉพาะผู้ที่มีอาการหนักเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเท่านั้น และให้ผู้ที่มีอาการเพียงเล็กน้อยไปหาหมอประจำตัว พักอยู่บ้านเพื่อเป็นการกักตัวเอง ด้วยวิธีนี้เราจะสามารถทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดไปที่ผู้ป่วยหนัก เร่งระยะเวลาการรักษา และหวังว่าด้วยการทำเช่นนั้นเราจะสามารถลดจำนวนผู้เสียอายุลงได้

ในขณะเดียวกัน เราก็จะมีเตียงในโรงพยาบาลและเครื่องมือที่ว่างมากขึ้นเพื่อจะได้ใช้ดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่ขอให้มั่นใจว่าคนสิงคโปร์ทุกคนที่ต้องการการดูแลรักษาอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อโควิด-19 หรือจากโรคร้ายอื่นๆ จะได้รับการดูแลรักษาอย่างดี

นอกจากแผนทางการแพทย์แล้วเรายังต้องการมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมอีกด้วย เราจะมีมาตรการชั่วคราวเช่นการให้หยุดการเรียนการสอน การเหลื่อมเวลาทำงาน หรือการบังคับให้ทำงานจากบ้าน และเราอาจจะมีมาตรการการห้ามเดินทางหากเราพบจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น การห้ามการเดินทางจะช่วยให้การแพร่เชื้อไวรัสช้าลง ป้องกันไม่ให้มีคนติดเชื้อมากเกินไปและช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อ และเมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงเราก็จะผ่อนคลายมาตรการต่างๆและเฝ้าป้องกันในระดับปรกติ

แต่ขอให้ผมเน้นตรงนี้ว่าสถานการณ์ในสิงคโปร์ยังอยู่ในภาวะที่สามารถควบคุมได้ เราจะไม่ยกระดับมาตรการไปสู่ขั้นสูงสุดสีแดง เราจะไม่ปิดเมืองเหมือนประเทศจีนหรืออิตาลี แต่สิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่คือวางแผนในอนาคตเกี่ยวกับมาตรการที่เข้มงวดขึ้นซึ่งอาจมีการทดลองใช้เป็นบางมาตรการและเตรียมคนสิงคโปร์ให้พร้อมเมื่อเราจำเป็นต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น

ด้านเศรษฐกิจ ขณะที่เรากำลังคิดถึงมาตรการที่เข้มงวดขึ้น ก็มีสิ่งที่เราเป็นห่วงเป็นอย่างมากคือผลกระทบทางเศรษฐกิจ

ระบบ เศรษฐกิจของเราได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และนั่นคือสาเหตุที่เราได้จัดงบประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์เอาไว้ช่วยเหลือธุรกิจ คนทำงานและครัวเรือนในระยะเฉพาะหน้าซึ่งก็สามารถช่วยได้บางส่วน แต่ในอนาคตข้างหน้าเรารู้ว่ายังจะต้องมีอีกหลายมาตรการ โดยเฉพาะมาตรการสำหรับอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เช่นโรงแรม สายการบิน ธุรกิจบริการและผู้ประกอบอาชีพอิสระ ในภาวะเช่นนี้ไม่มีใครรอดจากผลกระทบ ทุกคนโดนหมดมากหรือน้อยเท่านั้นเอง

ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเตรียมแพ็คเกจที่สอง โดยเราจะช่วยบริษัทต่างๆทางด้านต้นทุน เงินทุนหมุนเวียนเพื่อทำให้บริษัทเหล่านั้นฝ่าพายุนี้ไปให้ได้ เราจะช่วยให้คนของเรายังสามารถรักษางานเอาไว้ และช่วยพัฒนาพวกเขาในช่วงเวลาที่ตกต่ำ ดังนั้นเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปรกติ คนงานของเราจะเป็นคนแรกที่พร้อมจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพทันที เราจะช่วยเหลือคนงานที่โดนลดเงินเดือนและตกงานเพื่อให้พวกเขาและครอบครัวผ่านพ้นเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้

ผมเล่าเรื่องเหล่านี้ให้ท่านฟังเพื่อให้ท่านได้มั่นใจว่าเราควบคุมสถานการณ์ได้และเรามองไปข้างหน้า เรามองเห็นผลกระทบทางการแพทย์และเศรษฐกิจที่จะตามมา ผมมั่นใจว่าพวกเราสามารถจัดการได้

แต่อีกเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งก็คือจิตใจและความรู้สึกของประชาชน ทีมงานแนวหน้าของเราเช่น บุคลากรด้านสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ข้าราชการ บุคลากรด้านการขนส่งสาธารณะ คนขับแท็กซี่ คนงานทำความสะอาด กำลังทำงานกันอย่างหนักยิ่งยวดเพื่อทำให้สิงคโปร์ยังสามารถเดินไปข้างหน้าได้ ขณะที่คนสิงคโปร์อื่นๆต่างก็ช่วยกันให้กำลังใจพวกเขาเหล่านั้น ส่วนรัฐบาลก็เปิดเผยและโปร่งใสเกี่ยวกับแผนการต่างๆของรัฐบาล เมื่อเราขอร้องกับคนสิงคโปร์เช่นขอให้ใส่หน้ากากอนามัยเฉพาะตอนรู้สึกไม่สบายเท่านั้น หรือไม่ต้องกลัวว่าซุปเปอร์มาร์เก็ตจะไม่มีอาหารและข้าวของเครื่องใช้ขาย คนสิงคโปร์ก็มั่นใจและเปลี่ยนพฤติกรรม ผมขอขอบคุณที่ประชาชนส่วนมากตอบสนองคำขอร้องนั้นอย่างมีเหตุมีผลและรับผิดชอบ ขอบคุณสำหรับความเชื่อมั่นและการสนับสนุนของทุกท่าน

การรับมือของสิงคโปร์ได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติ เหตุผลสำคัญก็คือความเข้มแข็งของสังคมและจิตใจของคนของเรา สิ่งที่ทำให้สิงคโปร์แตกต่างจากประเทศอื่นๆก็คือพวกเราเชื่อมั่นในกันและกัน พวกเรารู้สึกว่าเรากำลังเผชิญสถานการณ์ร่วมกันและพวกเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง นี่คือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของสิงคโปร์ พวกเราคือสิงคโปร์ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน

อย่างไรก็ตามพวกเราจะยังคงต้องเผชิญกับความเสี่ยงในระดับสูงต่อไปอีกอย่างน้อยก็อีกระยะเวลาหนึ่ง แต่เราจะระมัดระวังต่อไป จะใช้มาตรการต่างๆเพื่อปกป้องพวกเราและครอบครัวของเรา เราจะทำให้ระบบเศรษฐกิจยังเดินหน้าต่อไปได้และทำให้พวกเรายังดำเนินชีวิตประจำวันของเราไปได้ ในภาวะวิกฤติเช่นนี้ทุกคนต่างก็มีบทบาทที่ต้องทำ ผมหวังว่าท่านจะร่วมกับผมและเพื่อนร่วมงานของผมเพื่อทำให้ครอบครัวของพวกเราปลอดภัย ทำให้สิงคโปร์มั่นคงและก้าวไปข้างหน้าร่วมกัน

ขอบคุณครับ


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment