{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ได้หารือร่วมกับคณะผู้บริหารบริษัท Huawei ณ Huawei Da Vinci Exhibition Hall สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดในประเทศไทย ซึ่งหากเทคโนโลยีของ Huawei สามารถช่วยเหลือด้านการบริหารจัดการจราจรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นหรือมีเทคโนโลยีในการทำนายภัยพิบัติและเตรียมการล่วงหน้าได้ จะเป็นทางเลือกที่ดีในการส่งเสริมให้ประเทศไทยพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีความยินดีที่จะสนับสนุนและให้ความร่วมมือในการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาความเหมาะสมในการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในประเทศไทยต่อไป
Mr. Richard Liu ผู้บริหารบริษัท Huawei กล่าวว่า ภายหลังประเทศไทยประกาศวิสัยทัศน์ Ignite Thailand เมื่อต้นปี 2567 ที่ผ่านมา คณะผู้บริหาร Huawei ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิสัยทัศน์ดังกล่าว จึงได้ศึกษาและเสริมสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศไทย พร้อมทั้งนำเสนอเทคโนโลยีระบบ IoT (Internet of thing) ระบบ Cloud และ AI ของ Huawei ซึ่งได้นำไปใช้ในการบริหารจัดการจราจรทางบก น้ำ ราง และอากาศ ตลอดจนตรวจจับหรือคาดการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ ให้สามารถเตรียมการรับมือได้อย่างทันท่วงที ซึ่งการใช้งานระบบดังกล่าวประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในมณฑลต่าง ๆ ของประเทศจีน โดยสามารถลดการใช้แรงงานคนได้ถึง 66% ลดต้นทุนได้ 30% และลดการใช้พลังงานได้ 17%
ทั้งนี้ บริษัท Huawei มีความประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมขนส่งและการท่องเที่ยวของภูมิภาค ผ่านระบบ Smart Plan ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาเตรียมการในการขนส่งจากหลักชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที ระบบ Intelligent Security Protection เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการขนถ่ายสินค้า ระบบ Ultra-remote control เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระบบต่าง ๆ ได้มากถึง 80% และระบบ Intelligent horizontal transportation ซึ่งจะลดการใช้พลังงานได้ถึง 10% ควบคู่ไปกับระบบอัตโนมัติที่สามารถทำให้การขนย้ายสินค้ามีประสิทธิภาพได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยดำเนินการผ่านระบบจัดเก็บข้อมูลส่วนกลางที่รวบรวมข้อมูล และถ่ายทอดสถานการณ์สดจากถนน ท่าเรือ สนามบิน และสถานีรถไฟ ผ่านศูนย์ Transportation Operation Coordination Center (TOCC) เพื่อเชื่อมโยงทุกช่องทางการขนส่งเข้าไว้ด้วยกัน และวิเคราะห์โดย AI เพื่อบริหารจัดการการจราจรและการขนส่งให้มีความคล่องตัว ซึ่งจะสอดคล้องนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการเสริมสร้างด้าน connectivity ของระบบการขนส่ง อีกทั้ง สอดรับกับความต้องการของรัฐบาลไทยในการยกระดับขีดความสามรถในการรับมือกับภัยพิบัติในปัจจุบัน
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS