ห่วงใย….เบตง !!

โดย … องค์หญิง

เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม เลยมาจนถึงต้นเดือนเมษายน 2561 ได้เห็นข่าวต่อเนื่องกันมา กรณีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เตรียมปิดอ่าวมาหยา โดยไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นเกาะตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. -30 ก.ย.61 และยังเลยรวมไปถึง หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ เกาะตาชัย บางแห่งประกาศปิดไม่มีกำหนด

เห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นึกถึง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งได้ถูกปักหมุดให้เป็นหนึ่งในสามของเมืองต้นแบบของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย อ.เบตง มีเป้าหมายจะถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวครบวงจรและสามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน

งบประมาณและโครงการต่าง ๆ ถูกทุ่มถมทับลงไปจำนวนมาก เฉพาะสนามบินเบตงก็ประมาณ 1,900 ล้านบาท ตอนนี้การก่อสร้างไปแล้วเกือบ 50% คาดว่าจะเสร็จสรรพพร้อมใช้งานราว ๆ ปลายปี 2562 อีกที่คือจุดชมวิวพื้นกระจก (Sky Walk) บริเวณจุดชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ประมาณ 90 ล้านบาท และบริเวณลานจอดรถอีก 40 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การตัดถนนหลักเขตที่ 54A เขตใต้สุดแดนสยาม วงเงิน 50 ล้านบาท การปรับปรุงทางหลวงเส้นทาง 410 ยะลา-เบตง ระยะทาง 137 กิโลเมตร ฯลฯ

กลับมาดูเหตุผลที่กรมอุทยานฯ ต้องทำการปิดอ่าวมาหยา เพราะต้องการฟื้นฟูธรรมชาติ ทั้งบนบกและใต้ทะเล หลังจากสำรวจพบว่า ได้รับความเสียหาย เสื่อมโทรมเข้าขั้นวิกฤต จากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ขึ้นไปบนเกาะในฤดูท่องเที่ยวเฉลี่ยถึงวันละ 4-5 พันคน

ปัญหาก็คือมีนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่เกินกว่าขีดความสามารถในการรองรับของแหล่งท่องเที่ยว

ที่ผ่านมาปัญหาลักษณะเช่นนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับที่นี่เป็นแห่งแรก ก่อนหน้านี้ จุดท่องเที่ยวของไทยเราหลายแห่ง ถูกรณรงค์เชิญชวนให้คนไปและมีการบอกต่อ ทำให้นักท่องเที่ยวแห่เข้าพื้นที่จำนวนมาก จนล้นเกินกว่าพื้นที่ของชุมชนจะรับได้ ปัญหาขยะ ปัญหาการจราจร ปัญหาเรื่องที่พักและอาหารไม่เพียงพอ บางครั้งเกิดการฉวยโอกาส เกิดการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมไปถึงการใช้ชีวิตของคนพื้นที่บางส่วนต้องเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ขาดเสน่ห์แบบที่เคยมีมา

ชุมชนคีรีวง อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เคยมีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นชุมชนต้นแบบที่เคยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมเมื่อปี 2541 คนที่นี่เคยมีชีวิตที่สงบเรียบง่าย อยู่กับธรรมชาติ นักท่องเที่ยวเคยทะลักล้นจนแก้ปัญหาเกือบไม่ทัน

อ.เชียงคาน อ.ปาย วิถีชีวิตและประเพณีที่ดีงามหดหาย คนภายนอกเข้ามาขอเช่า-เซ้ง เพื่อเปิดร้านค้า กลายเป็นชุมชนเทียมไม่ใช่ของแท้

วันนี้อ่าวมาหยา กำลังไล่ตามแก้ปัญหาโดยการปิดเกาะและต่อไปจะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ด้วย

เหลียวกลับมองดู อ.เบตง อีกครั้งวันนี้ยังมีความบริสุทธิ์ เป็นเมืองที่มีภูมิอากาศเย็นตลอดปี แวดล้อมไปด้วยสายหมอก ป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวแวะมาเยี่ยมเยือนประมาณปีละ 250,000 คน กำลังถูกเร่งรณรงค์ด้วยความคาดหวังว่า อีก 2 ปีข้างหน้าจะต้องจูงใจนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้นให้ได้มากกว่านี้อีก 4-5 เท่า เพื่อให้เกิดการใช้จ่าย เกิดอาชีพ เศรษฐกิจเติบโต

ภาครัฐเชื่อว่า ถ้าเศรษฐกิจของเมืองต้นแบบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ดี แล้วขยายออกสู่เมืองบริวาร ประชาชนในพื้นที่มีความกินดีอยู่ดีมากขึ้น จะช่วยลดปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ลงได้

เราก็หวังและเชื่อต่อความคิดนี้

แต่การเร่งรัดเพื่อให้เมืองเติบโตอย่างรวดเร็ว ยังรู้สึกไม่มั่นใจว่าการบริหารจัดการและมาตรการเพื่อรองรับปัญหาในพื้นที่จะมีความละเอียดรอบคอบดีพอ …

ขอย้ำว่าต้องดีพอในทุกๆ ด้านด้วย ทั้งเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และ สังคม-วัฒนธรรม เพื่อที่จะให้เกิดความสมดุลทุกมิติ

นี่ไม่ใช่จะคิดขัดขวาง หรือ เป็นพวกถ่วงความเจริญของพื้นที่เขานะ เพียงเห็นว่าอีกไม่นาน “เบตงกำลังจะบูม” ที่อาจจะพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน ก็อยากเห็นการพัฒนาของพื้นที่สู่เมืองท่องเที่ยวเป็นไปอย่างยั่งยืนจริงๆ ที่สำคัญคือสามารถสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจสังคมให้คนในพื้นที่อย่างเป็นธรรมทุกฝ่าย และสร้างโอกาสเพื่อลดปัญหาความยากจนให้ได้


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment