รัฐบาล “ขาขึ้น”

โดย…องค์หญิง

ณ ชั่วโมงนี้หัวข้อคุยกันบนเวทีการเมือง คงหนีไม่พ้นเรื่องการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในต้นปีหน้า (2562) เหล่าบรรดานักเลือกตั้งทั้งหน้าเก่า-หน้าใหม่ เริ่มออกมายืดเส้นยืดสายกันแล้ว เพราะมีคนฟันธงว่า กุมภาพันธ์ 62 มีการจัดเลือกตั้งแน่นอน หรือบางคนนั่งนับนิ้วบอกว่าน่าจะกลางปีหน้า จะมีน้อยมากที่หลุดกรอบออกไปว่าต้องปลายปี และเมื่อต้นเดือน (มิ.ย. 61) ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำวินิจฉัยคำสั่งของหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 53/2560 ว่า เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ยิ่งเป็นการตอกย้ำความมั่นใจเข้าไปอีก

เอาเป็นว่าคนจำนวนมากต่างเชื่อกันว่าปีหน้าจะมีการจัดการเลือกตั้งแน่ๆ

หัวใจอันสำคัญ ถ้ารัฐบาลชุดนี้จะกำหนดวัน เดือน ปี ให้มีการเลือกตั้งเปิดทางให้กลุ่มการเมืองกลับขึ้นเวที ต่อเมื่อมั่นใจว่ายังควบคุมทุกสิ่งอย่างได้ มิเช่นนั้นแล้ว “เสี่ยง” กับ ชีวิตความเป็นอยู่ในอนาคตของตัวเองและพวกพ้อง

การปิดกั้นความ “เสี่ยง” โดยการสร้างกรอบเพื่อมิให้กลุ่มอำนาจเก่ากลับเข้ามา ก็เป็นหนทางหนึ่ง หรือ สนับสนุนกลุ่มใหม่ให้มีโอกาสเกิดก็เป็นอีกหนทางหนึ่ง การประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่แบบมีเงื่อนไข ยังไม่ให้กลุ่มการเมืองทั้งหลายได้กระดิกตัว กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ว. กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. และ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดสมาชิกพรรคการเมืองต้องมีส่วนร่วมในการส่งผู้สมัคร (ไพรมารี่โหวต) และกฎเกณฑ์อีกหยุมหยิม ที่สร้างความยุ่งยากให้กับพรรคการเมือง ยังไม่รวมกลไกอื่น ๆ ทั้งมหาดไทย กอ.รมน. ที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งมากขึ้น นั่นคือสิ่งที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลนี้จะต้องอยู่ต่อยังไม่กล้าที่จะ “เสี่ยง” ออกไป

แต่เงื่อนไขกติกาเหล่านี้อาจจะ “เอาไม่อยู่” จึงเกิดปรากฏการณ์

ภาพของอดีตกำนันสุเทพ หลั่งน้ำตาร่วมเปิดตัวพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โดยไม่สนใจข้อกล่าวหาว่าผิดคำพูดที่เคยประกาศไว้ตอนที่ “บวชพระ” ห่มผ้าเหลือง ว่าจะไม่กลับมาเล่นการเมืองอีก บางคนอาจตกอกตกใจ แต่บางคนอาจรู้สึกเฉยๆ เพราะเขาคือนักการเมือง

ภาพของรัฐบาลลงพื้นที่ในรูปแบบการประชุม ครม.สัญจร ติดตามความก้าวหน้าของงาน พบปะกับชาวบ้านในแบบฉบับของนักการเมือง หว่านโปรยเม็ดเงิน โครงการโน่น นี่ นั่น แล้ว พูดคุยกับนักการเมืองที่ยังมีฐานเสียงดี เพื่อดูดเข้าสังกัด

เพราะรู้ดีว่า เป้าหมายแห่งชัยชนะไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องทำทุกสิ่งอย่างที่ทำได้

เมื่อประชาชนเริ่มส่งเสียงร้องขอคืนความสุข ทวงถามสิ่งที่เคยสัญญาไว้

4 ปีของรัฐบาลชุดนี้ ต้องยอมรับทำเรื่องดีที่รัฐบาลจากการเลือกตั้งทำไม่ได้หลายอย่าง เคยยืนยันว่าจะทำการเมืองให้โปร่งใส แต่ประวิตรใส่นาฬิกาหรู ที่ยังไม่รู้แน่ว่าของใคร วันนี้เรื่อง ปัญหาการทุจริต เมื่อเทียบกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว ถึงกับมีคนบอกว่า … ไม่รู้ว่าใครเหนือกว่าใคร... ขณะที่เศรษฐกิจ ชาวบ้านก็หัวทิ่มคะมำ เหมือนคนเมา ไม่เป็นดังที่ผู้คนคาดหวังเหมือนตอนเข้ามาใหม่ ๆ

วันนี้จู่ ๆ รัฐบาลก็เกิดอาการ “ขาขึ้นหัวทิ่มลง” ซะงั้น

ซึ่งมันคือเหตุผลที่ คสช.ยังไม่กล้าปลดล็อคทางการเมือง จนเกิดอาการอึดอัดด้วยกันทุกฝ่าย พรรคการเมืองยังทำกิจกรรมไม่ได้ รัฐบาลก็เก้ๆกังๆ กลุ่มคนอยากเลือกตั้งจึงต้องออกมาเดินทวงถามวัน เวลา จะเลือกวันไหนแน่ แม้ตัวเลขโพลล์ก็ย้ำว่าคนไทยโหยหากันเต็มที

ถามคนในกอง บก.สำนักข่าวสับปะรด ….เชื่อว่าปีหน้าเราจะได้เลือกตั้งไหม

ไม่มีใครกล้าเสี่ยง ฟันธง !!


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment