GCAPลุยสินเชื่อใหม่ ผนึกนิ่มซี่เส็งเสริมแกร่ง

GCAP กางแผนปี 64 เดินหน้าขยายพอร์ตสินเชื่อ พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกลุ่ม นิ่มซี่เส็งฯ ต่อยอดธุรกิจ ปี 63 มีรายได้รวม 330.11 ล้านบาท กำไรสุทธิ 16.86 ล้านบาท

นายสเปญ จริงเข้าใจ กรรมการและผู้จัดการ บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยว่า ในปี 2564 ตั้งเป้าสินเชื่อใหม่คาดว่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาหรือประมาณ 1,000 ล้านบาท มีสินเชื่อเช่าซื้อในกลุ่มลูกค้าเกษตรกรยังเป็นลูกค้าหลัก โดยเฉพาะรถเกี่ยวข้าว ซึ่งเป็นกลุ่ม high yield และมีนโยบายควบคุมตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปี 2564 ไว้ไม่เกิน 5%

โดยบริษัทจะกลับมาเน้นโปรดักส์ที่ผลตอบแทนสูง เพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัท นอกจากนี้บริษัทฯ จะโฟกัสธุรกิจร่วมทุนกับกลุ่มนิ่มซี่เส็งฯ โดยจะดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อลูกค้ากลุ่มการขนส่ง (Logistic) เป็นหลัก คาดว่าจะสามารถเริ่มปล่อยสินเชื่อได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งนับเป็นการขยายธุรกิจและขยายฐานลูกค้าให้เติบโตขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจด้านการขนส่งมีแนวโน้มเติบโตและได้รับผลบวกในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยจุดแข็งของจีแคปฯ คือความชำนาญในกลุ่มเกษตรกรรม อยู่ในธุรกิจนี้มากว่า 17 ปี มีฐานลูกค้าที่รู้จักบริษัทฯ เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน นิ่มซี่เส็งฯ เป็นที่รู้จักและได้รับความเชื่อมั่นในกลุ่มลูกค้า มีความชำนาญอย่างมากในธุรกิจขนส่ง การจับมือกันในครั้งนี้จึงถือว่าเป็นโอกาสที่จะสามารถขยายพอร์ตให้เติบโตแบบก้าวกระโดดได้

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2563 บริษัทพิจารณาในงบการเงินเฉพาะกิจการ เนื่องจากในงบการเงินรวม มีการบันทึกส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมค้าที่ยังไม่ดำเนินธุรกิจใดๆ เข้ามาแสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียในงบรวมเพิ่มเติม โดยผลประกอบการของบริษัทฯ ในงบการเงินเฉพาะกิจการงวดประจำปี 2563 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2563) บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 330.11 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 จำนวน 28.52 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.95 ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.13 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 19.82 ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 16.86 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 จำนวน 39.35 ล้านบาท หรือร้อยละ 70 เนื่องจากปล่อยสินเชื่อลดลงในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการแพร่ระบาดของโควิด-19

สำหรับในไตรมาส 4/2563 ในงบการเงินเฉพาะกิจการมีรายได้รวม 76.28 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 18.84 เนื่องจากการลดลงของรายได้จากสิทธิเรียกร้องภายใต้สัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน ในขณะที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของสินเชื่อรวมลดลง รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ทำให้มีกำไรสุทธิจำนวน 7.42 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2562 ร้อยละ 50.23

ขณะที่ในงบการเงินรวมที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย ณ สิ้นปี 2563 มีกำไรสุทธิ 3.90 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มีส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในการร่วมค้า 12.18 ล้านบาท ในกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ และสำหรับไตรมาส 4/2563 จำนวน 1.56 ล้านบาท

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้ความไว้วางใจ ที่ประชุมกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 15 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 93.61 ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมายแล้วในงบการเงินเฉพาะกิจการ โดยกำหนดรายชื่อผู้ที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 15 มีนาคม 2564 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 นี้


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment