ASIANหวังปี64รายได้โต8-10%กำไรปี 63 นิวไฮ 818 ล้านปันผลเป็นหุ้นและเงินสด

ASIANตั้งธงรายได้โต 8-10% ชูธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงโดดเด่น เผยงบปี 63 กำไร 818 ล้าน พุ่งทะยาน 515% จ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นและเงินสด

นายเอกกมล ประสพผลสุจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงินบริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปี 2564 เบื้องต้นบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้จากการขายและบริหารหลักจะเติบโตได้ราว 8-10% จากปีก่อน จากการเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารสัตว์น้ำเป็นสำคัญ และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ระหว่าง 14-15% โดยบริษัทประเมินว่ายังคงเป็นปีแห่งความไม่แน่นอน หากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ยังคงไม่คลี่คลาย บริษัทฯคาดว่าค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าเกือบตลอดทั้งปีเมื่อเทียบกับปี 2563 อุตสาหกรรมสัตว์น้ำ โดยเฉพาะการทำฟาร์มกุ้งในประเทศ ยังคาดว่าจะเติบโตได้ราว 15% ส่งผลต่อการเติบโตของตลาดอาหารสัตว์น้ำภายในประเทศ ตลอดจนปริมาณและราคาวัตถุดิบกุ้ง ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตต่อ โดยเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกา

โดยแผนการลงทุนในปี 2564 บริษัทคาดว่าจะใช้งบประมาณ 400 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุนในการเพิ่มกำลังการผลิตในกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า 300 ล้านบาท งบลงทุนเพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิต 70 ล้านบาท และงบลงทุนในการขยายระบบ ERP รองรับทุกธุรกิจ 30 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตที่แข็งแกร่งในอนาคต

นายเอกกมล กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัทในงวดปี 2563 มีกำไรสุทธิ 818 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 685 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 515% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 133 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายรวมอยู่ที่ 8,645 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เทียบกับปีก่อนหน้ารายได้รวมอยู่ที่ 8,194 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายของกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นในกลุ่มอาหารสัตว์น้ำ สำหรับกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 1,393 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 741 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 652 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ 16% ซึ่งทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เริมดำเนินกิจการ เทียบกับปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 8% เนื่องจากยอดขายกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงสูง และมีอัตรากำไรที่แข็งแกร่งขึ้นมากในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง แม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น

สำหรับไตรมาส 4/2563 มีกำไรสุทธิ 211 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,141.18% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2562 ที่มีกำไรสุทธิ 17 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายรวม 2,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 14% โดยยอดขายกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงในไตรมาส 4/2563 อยู่ที่ 903 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 60% โดดเด่นสุดในกลุ่ม

ขณะที่สัดส่วนรายได้จากการขายรวมในปี 2563 แบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงราว 39% อยู่ที่ 3,454 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 38% รองลงมาคือกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่เยือกแข็งอยู่ที่ 3,023 ล้านบาท ลดลงราว 22% กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์น้ำอยู่ที่ 1,361 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% กลุ่มผลิตภัณฑ์ทูน่าอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยราว 1%

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินและหุ้นปันผลจากกำไรสะสม ในอัตราหุ้นละ 1.05 บาท โดยจ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นสัดส่วน 2 หุ้นสามัญต่อ 1 หุ้นปันผล และเป็นเงินสดปันผลในอัตราหุ้นละ 0.55 บาท รวมเป็นหุ้นทั้งสิ้น 271,363,774 หุ้น และเป็นเงินทั้งสิ้น 298,500,151.95 บาท ในกรณีที่มีเศษหุ้น บริษัทจะจ่ายเงินสดแทนการจ่ายหุ้นปันผล ในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น โดยจ่ายจากกำไรของกิจการที่ไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (Non-BOI) ทั้งหมด และกำหนดให้จ่ายเงินปันผลในวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 หากได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 เมษายน 2564 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 30 เมษายน 2564

นอกจากนี้ ยังมีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 เพื่อพิจารณาอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 542,727,549 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 814,091,323 บาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 271,363,774 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้น


COMMENTS

{{ errors.name }}

{{ errors.value }}

{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

RELATED TOPICS

Please wait a moment