{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}

กลุ่มบริษัทเอไอเอ (“บริษัท”) ประกาศผลประกอบการมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตขึ้นร้อยละ 25 รายงานจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (CER) สำหรับไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2568
อัตราการเติบโตรายงานตามอัตราแลกเปลี่ยนคงที่:
· มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตร้อยละ 25 คิดเป็น 1,476 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำสถิติสำหรับไตรมาสที่สาม
· อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB Margin) ร้อยละ 58.2 เพิ่มขึ้น 5.7 จุด
· มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตแบบเลขสองหลักในวงกว้าง ทั้งในฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ อาเซียน และอินเดีย
· การเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ผ่านช่องทางตัวแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากการสรรหาตัวแทนที่แข็งแกร่งมาก เพิ่มขึ้นร้อยละ 18
นายหลี่ หยวน ซยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า“เอไอเอ ยังคงดำเนินกลยุทธ์การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้ไตรมาสนี้ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง ขณะที่เราคว้าโอกาสอันดีในตลาดประกันชีวิตและสุขภาพทั่วเอเชีย ในไตรมาสที่สามของปี 2568 นี้ เราสามารถเพิ่มมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ได้ถึงร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีการเติบโตแบบเลขสองหลักใน 11 ประเทศ
เอไอเอ สร้างการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ได้ถึงร้อยละ 25 เป็นจำนวน 1,476 ล้านเหรียญสหรัฐใน ไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 ด้วยตัวเลขการเติบโตสองหลักใน 11 จากทั้งหมด 18 ประเทศ จากช่องทางการขายหลักของเอไอเอ ธุรกิจ พรีเมียร์ เอเจนซี่ ของเราอยู่ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรม โดยมีส่วนสร้างการเติบโตในมูลค่าธุรกิจใหม่ได้ถึงร้อยละ 19 คิดเป็นมากกว่าร้อยละ 70 ของมูลค่าธุรกิจใหม่จากทั้งกลุ่มบริษัท ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนตัวแทน การสรรหาตัวแทนใหม่ที่เติบโตขึ้นร้อยละ 18 ช่วยสนับสนุนให้จำนวนตัวแทนที่ปฏิบัติงานอยู่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ช่องทางพันธมิตรได้มีการเติบโตอย่างรวดเร็วของมูลค่าธุรกิจใหม่ถึงร้อยละ 46 โดยได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมของช่องทางที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) และ โบรกเกอร์ในฮ่องกง รวมถึงช่องทางการขายผ่านธนาคาร
เอไอเอ ฮ่องกง มีการเติบโตระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสนี้ ด้วยมูลค่าธุรกิจใหม่ร้อยละ 40 โดยมีการเติบโตที่โดดเด่นจากทั้งกลุ่มลูกค้าภายในประเทศและนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงช่องทางพรีเมียร์ เอเจนซี่ซึ่งเป็นช่องทางหลักในฮ่องกง มีการเติบโตขึ้นร้อยละ 20 จากจำนวนตัวแทนที่ปฏิบัติงานเพิ่มขึ้นแบบเลขสองหลัก และประสิทธิภาพการขายที่สูงขึ้น นอกจากนี้เรายังเห็นการเติบโตที่ยอดเยี่ยมของมูลค่าธุรกิจใหม่ของช่องทางการขายผ่านธนาคารพันธมิตร ขณะที่ช่องทางที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) และช่องทางโบรกเกอร์เติบโตมากกว่าสองเท่าจากปีที่ผ่านมา
เอไอเอ ประเทศจีน มีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ที่ยอดเยี่ยมถึงร้อยละ 27 ที่รายงานหลังจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสมมติฐานทางเศรษฐกิจ ทั้งความร่วมมือกับโปรแกรมพรีเมียร์ เอเจนซี่ ที่โดดเด่นและความร่วมมือกับธนาคารชั้นนำของเราต่างเติบโตอย่างแข็งแกร่งตลอดจนผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 การกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่สาม ทำให้ผลประกอบการเก้าเดือนของมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในประเทศไทย เรายังคงครองตำแหน่งผู้นำตลาดอย่างชัดเจนและมีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) อยู่ที่ร้อยละ 20 ในไตรมาสที่สามของปี 2568 ความต้องการผลิตภัณฑ์คุ้มครองแบบดั้งเดิมและผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์) ของเราที่ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับที่รายงานในช่วงครึ่งปีแรกการมุ่งมั่นสรรหาตัวแทนที่มีคุณภาพของเราส่งผลให้จำนวนผู้สมัครตัวแทนใหม่และผู้นำหน่วยงานเพิ่มขึ้น
เอไอเอ สิงคโปร์ ประสบความสำเร็จในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) โดยได้รับแรงสนับสนุนจากทั้งช่องทางการขายผ่านตัวแทนและพันธมิตรของเรา ตัวแทนที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความเป็นมืออาชีพของเรายังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในด้านการสรรหาบุคลากรใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมจากช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านพันธมิตรของเรานั้นเกิดจากการขายที่แข็งแกร่งของข้อเสนอด้านความมั่งคั่งของเราให้กับลูกค้าที่มีสินทรัพย์สูง และความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าต่างประเทศ
เอไอเอ มาเลเซีย กลับมามีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ในเชิงบวกอีกครั้งในไตรมาสที่สาม ของปี 2568 เนื่องจากการลดลงของจำนวนตัวแทนมีสัดส่วนน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี โดยได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของช่องทางการขายผ่านพันธมิตรที่ยังคงเติบโตในระดับสองหลักในช่องทางตัวแทน เราประสบความสำเร็จในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตัวแทนและมูลค่าธุรกิจใหม่ยังคงเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองของปี 2568 ช่องทางการขายผ่านธนาคารของเรามีการเติบโตในเชิงบวก ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับลูกค้าที่มีสินทรัพย์สูง
โดยรวม ตลาดอาเซียนมีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) สูงขึ้นร้อยละ 15 โดยได้รับแรงสนับสนุนจาก การเติบโตสองหลักจากทั้งช่องทางตัวแทนและช่องทางพันธมิตร
กลุ่มตลาดอื่นของเรามีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) อยู่ในระดับเดียวกับปีที่แล้ว การเติบโตแบบเลขสองหลักจากเกาหลีใต้ เวียดนาม และอินเดีย ที่ช่วยชดเชยการลดลงในออสเตรเลียและไต้หวัน (จีน) สำหรับ Tata AIA Life ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของเราในอินเดีย ยังคงสร้างการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกช่องทางการขาย และยังคงรักษาอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมด้านประกันชีวิตประเภทคุ้มครองรายย่อยในไตรมาสที่สามของปี 2568(13)
โดยรวมแล้ว มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เป็น 1,476 ล้านเหรียญสหรัฐ เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เป็น 2,550 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ เพิ่มขึ้น 5.7 จุด เป็นร้อยละ 58.2 จากการปรับสัดส่วนในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยม อัตรากำไรที่รายงานตามมูลค่าปัจจุบันของเบี้ยประกันภัยธุรกิจใหม่ (PVNBP) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 11 ในขณะที่เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เป็น 11,910 ล้านเหรียญสหรัฐ
กำไรจากการให้บริการตามสัญญาของธุรกิจใหม่ (NB CSM) สำหรับไตรมาสที่สามของปี 2568 เพิ่มขึ้นกว่า ร้อยละ 25 ธุรกิจใหม่ที่มีกำไรอย่างต่อเนื่องช่วยเพิ่มเข้ามาเสริมรายได้ที่เกิดขึ้นประจำจากธุรกิจที่มีอยู่แล้ว ตอกย้ำความเชื่อมั่นของเราในการบรรลุเป้าหมายของกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) ต่อหุ้นที่ร้อยละ 9 ถึง11 ต่อปี ตั้งแต่ปี 2566 ถึง 2569
COMMENTS
{{ errors.name }}
{{ errors.value }}
{{c.name}} {{moment(c.created_at,"YYYY-MM-DD HH:mm:ss").toNow()}}
{{c.value}}
RELATED TOPICS